ผลประโยชน์ทับซ้อน ไทยรักพม่าหรือพม่ารักไทย

Tue, Jun 19, 2007

English | ทักษิณ

ผลประโยชน์ทับซ้อน ไทยรักพม่าหรือพม่ารักไทย

เรื่องที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนมากอีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของการที่รัฐบาลไทย ตัดสินใจสนับสนุนให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (EXIM BANK)ปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศพม่า เป็นเงินสูงถึง ๔,๐๐๐ ล้านบาท

ความจริงเรื่องการช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญ และครั้งนี้คงไม่ใช่เป็นครั้งแรก แต่พอเราเข้าไปดูเนื้อหาพบว่าในอดีตนั้นเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล

พอเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลแล้วมันจะมีเรื่องจำกัด ในลักษณะของโครงการ

ผมอยากจะยกตัวอย่าง เช่น เวลานี้เราปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศลาว เขมร พม่า โดยสำนักงานเศรษฐกิจกระทรวงการคลังดูแลเรื่องนี้อยู่ และมีแนวทางที่จะก่อตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านซึ่งจะเป็นหน่วยงานเล็กๆหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงการคลัง

เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องดี และวิธีการที่เราทำอย่างนี้ มีข้อกำหนดชัดเจนว่า จะกู้เอาไปทำอะไร เช่น สร้างเส้นทางคมนาคม เป็นต้น

รัฐบาลคุณทักษิณฉีกแนวทางควบคู่ไปอีกแนวหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือ คือนอกเหนือไปจากให้เงินที่รัฐบาลไทยสนับสนุนแบบเงินให้เปล่าแก่ประเทศเพื่อนบ้านและเงินกู้ผ่อนปรนดอกเบี้ยต่ำ ๑ – ๒ เปอร์เซ็นต์ ระยะผ่อนส่ง ๓๐ ปี ที่กระทรวงการคลังให้ประเทศพม่ายืมแล้ว ยังมีความคิดว่าจะให้ธนาคารเพื่อการส่งออกไปช่วยพม่าอีกแนวหนึ่ง ตรงนี้แหละครับที่แปลกมากเลย เพราะโดยปรกติการที่ธนาคารซึ่งถือว่าเป็นธนาคารของรัฐธนาคารหนึ่ง จะปล่อยให้ประเทศใดประเทศหนึ่งกู้ หรือใครก็ตามที่จะกู้เงินจากธนาคารของรัฐนั้นจะต้องเป็นผู้กู้ที่มีเครดิตพอสมควร

สำหรับประเทศพม่า ใคร ๆ ก็รู้ว่ารัฐบาลพม่ามีปัญหามากในเรื่องเครดิต เพราะว่าระบบธนาคารของพม่านั้นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

ระบบการเงินของพม่าอ่อนแอมากครับ

ธนาคารของพม่าโดยปกติไม่ค่อยปล่อยเงินกู้ให้กับธุรกิจหรอกครับ ส่วนใหญ่เงินที่ระดมมาได้จะเอาไปให้รัฐบาลพม่ากู้เป็นส่วนใหญ่

สถาบันการเงินต่างประเทศเขามองกันว่า การค้าขายที่ผิดกฎหมายในประเทศพม่าส่วนใหญ่เอาเงินไปฝากไว้ในธนาคารเหล่านี้ครับ

เชื่อไหมครับว่า เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของเงินที่มีผู้มาฝากไว้ หรือเงินที่ธนาคารเหล่านี้ได้มา แล้วนำไปให้รัฐบาลกู้มีอัตราส่วนที่ต่ำมากครับ คือเพียงร้อยละ ๘๐ เท่านั้นครับ

หมายความว่าเวลาพม่ามีเงินฝากในระบบนี้ ๘๐ บาท จะมีเงินอยู่ในระบบเพียง ๑๐๐ บาทเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าระบบธนาคารในประเทศไทยมากเกือบ ๑๐ เท่าครับ ระบบการเงินในประเทศไทยนั้นถ้ามีเงินในระบบ ๑๐๐ บาท เราจะพูดถึงระบบเงินฝากเพียง ๘ บาท ไม่ใช่ ๘๐ บาท

เห็นได้ชัดว่า ระบบการเงินของพม่าอ่อนแอ

จึงมีคนสงสัยว่า แล้วพม่าจะพัฒนาประเทศได้อย่างไร

พูดจริงๆแล้วก็ยากครับ โดยเฉพาะปัญหาสิทธิมนุษยชนของพม่า เรื่องที่เป็นรัฐบาลเผด็จการ ทำให้ประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศทางซีกตะวันตกเขา (แซงชั่น )กันหมดเลยครับ

ธนาคารใหญ่ๆ อย่าง EXIM BANK ของสหรัฐไม่เคยให้เงินกู้กับพม่าเลย

ไปดูที่ธนาคารกลางอย่างธนาคารโลก ตั้งแต่ปี ๑๙๘๘ จัดอันดับไว้ว่า รัฐบาลพม่าเป็นรัฐบาลที่เบี้ยวหนี้ครับ แล้วยังไม่ยอมจ่ายเงิน ๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ค้างกันถึงทุกวันนี้

IMF เองก็เหมือนกันครับ ไม่ยอมให้ความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น

ส่วน ADB นั้นให้ประเทศในเอเชียกู้อยู่ครับ เคยให้พม่ากู้ถึง ๓๒ โครงการ เป็นเงินประมาณ ๕๓๐ ล้านบาท

๓๒ โครงการที่ผมพูดถึง ตอนนี้สัญญากู้ปิดหมดแล้วครับ

เวลานี้พม่าเป็นหนี้ ADB อยู่ ตัวเลขปัจจุบันผมไม่แน่ใจ แต่คาดว่าเป็นหนี้ถึง ๓๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯครับ

พูดกันง่ายๆว่าเวลานี้ไม่มีธนาคารไหนในโลกนี้ให้ประเทศพม่ากู้

เมื่อสักครู่ผมบอกว่า ความแตกต่างระหว่างการให้รัฐบาลไทยให้เงินกู้พม่า กับการให้ธนาคาร EXIM BANK ปล่อยกู้มีอย่างนี้ครับ มันไม่ใช่เฉพาะเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเท่านั้น แต่เป็นเรื่องลักษณะของโครงการ

เงิน ๔,๐๐๐ ล้านที่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของประเทศไทยให้เงินกู้พม่านั้น ไม่มีการกำหนดเลยครับ ว่าจะเอาไปทำอะไร แล้วแต่รัฐบาลพม่าครับ

โครงการที่ถูกเพ่งเล็งมากที่สุดหนีไม่พ้นโครงการ เช่าสัญญาณดาวเทียม ( BROADBAND SATELLITE SYSTEM ) ของบริษัทชินแซทเทิลไรท์ เป็นเงิน ๖๐๐ ล้านบาท ได้อนุมัติเรียบร้อยไปแล้ว

ที่เป็นเรื่องน่าแปลกใจคือ หนึ่ง ทำไมประเทศพม่าถึงมีความต้องการใช้สัญญาณดาวเทียมสอบถามไปแล้วได้รับคำตอบว่า เพื่อนำไปใช้ในระบบอินเตอร์เนต พอซักถามเข้าจริงๆเรื่องระบบอินเตอร์เนตในพม่ายังไม่แพร่หลาย เพราะรัฐบาลพม่าควบคุมเรื่องข้อมูลข่าวสารใครใช้อินเตอร์เนตเกือบต้องมีบัตรพิเศษเลยครับ

ถ้าจะใช้ระบบดาวเทียมเป็นระบบ บรอดแบนด์ คือระบบความเร็วสูง ประเทศด้อยพัฒนาอย่างประเทศพม่าจำเป็นด้วยหรือ ประชาชนพม่ามีความจำเป็นใช้ระบบอินเตอร์เนตแบบความเร็วสูงนั้นหรือพอซักเข้าจริงๆคำตอบในสภาบอกว่าไม่ใช่อย่างนั้น เข้าใจผิด ความจริงรัฐบาลพม่าต้องการนำไปใช้เพื่อระบบโทรศัพท์พื้นฐานธรรมดา

ถามว่าในประเทศพม่า โทรศัพท์พื้นฐานมีไม่ทั่วหรอกครับ แต่รวยถึงขนาดที่เรียกว่า แทนที่จะใช้สายเคเบิลโทรศัพท์ธรรมดา ต้องใช้สัญญาณดาวเทียมเลยหรือครับ ใครๆก็รู้ว่าใช้สัญญาณดาวเทียมในระบบโทรศัพท์พื้นฐานธรรมดามันแพงครับ

โครงการนี้พูดกันตามตรงแล้ว ถ้าใช้เงินกู้จากแหล่งอื่นมันเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเป็นโครงการที่ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่ผมเชื่อว่าบริษัทที่วิ่งเต้นอยู่ก็เอาโครงการอย่างนี้ไปขายให้รัฐบาลพม่า

วิธีการขายคงบอกด้วยซ้ำว่า ไม่เป็นไรหรอก จะหาแหล่งเงินกู้ให้

แหล่งเงินกู้ที่ว่าคงหนีไม่พ้นธนาคารเพื่อการส่งออกของเราครับ

โครงการลักษณะอย่างนี้น่าจะเชื่อได้ว่า เป็นโครงการที่ไม่เหมาะสมกับประเทศพม่าในปัจจุบัน

แล้วใครเป็นคนไปผลักดันรัฐบาลพม่า บอกว่าโครงการนี้ดี

ฟังดูแล้วเหมือนกับว่า มีคนไปวิ่งเต้นกับรัฐบาลพม่า บอกว่าให้ทำโครงการนี้เถอะ

รัฐบาลพม่าอาจจะบอกว่า มันจะเหมาะสมกับเศรษฐกิจหรือไม่

คนติดต่อบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวจะจัดการเรื่องเงินกู้ให้เอง

ต่อมาเขาก็จัดการได้จริงๆครับ คือมาวิ่งเต้นรัฐบาลไทยให้ปล่อยเงินกู้ให้พม่าถึง ๖๐๐ ล้านบาท จาก ๔,๐๐๐ ล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าปล่อยเงินกู้แบบนี้ ทั้งๆที่ไม่เคยปล่อยมาก่อนความจริงก็น่าสงสารเอ็กซิมแบงค์ของเรา กลายเป็นเก็กซิมแบงค์ไปแล้วแต่เขาก็ฉลาดพอ นำเรื่องขออนุมัติครม. ให้รับผิดชอบหัวหน้าครม. บอกไม่เป็นปัญหา อนุมัติทันทีครับ เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๗ ๓ สัปดาห์ก่อนพิธีลงนามเงินกู้ ( ๒๕ มีนาคม ๒๕๔๗ )

อนุมัติไว้อย่างนี้ครับ “….ธสน. ได้รับความเสียหายเนื่องจากดำเนินธุรกิจตามนโยบายของรับบาลดังกล่าว ให้กระทรวงการคลังจัดสรรเงินจากงบประมาณประจำปี เพื่อชดเชยแก่ ธสน. ตามจำนวนที่เสียหายนั้น…..”

ผลสุดท้าย ก็มาลงที่เงินภาษีของประชาชนคนไทยทั้งประเทศนั่นเอง

ท่านผู้อ่านไม่ต้องถามก็รู้คำตอบว่า ใครคือคู่สัญญา ถ้าไม่ใช่ (บริษัทชินแซทเทิลไลท์ ) ในเครือของ ( ชินคอร์ปเปอร์เรชั่น ) เจ้าของคือครอบครัวของนายกฯทักษิณครับ

ผมคิดว่าการทำอย่างนี้ไม่ได้ช่วยเพื่อนบ้านจริงๆหรอก เพราะถ้าทำเพื่อช่วยเพื่อนบ้านจริงๆแล้ว เรื่องของความเหมาะสมของโครงการเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ที่บริษัทในประเทศไทยจะพึงได้รับ

ไม่ ใช่ไปผลักดันอะไรที่พม่ายังไม่จำเป็น แต่เราอยากจะขายของๆเรา เราอยากจะได้สัญญาสัมปทานตรงนี้ แล้วเราไปผลักดัน

ถ้ารัฐบาลพม่าไม่มีเงิน เราก็เอาเงินของรัฐบาลไทยไปช่วยเขา ทำอย่างนี้ไม่ได้ครับ

ทำอย่างนี้มันผิด

ทำอย่างนี้มันเสียหาย

ตกลงใครรักใครครับ

แบ่งปันเรื่องราว:
  • Print
  • del.icio.us
  • Facebook
  • email
  • PDF
  • Twitter

Tags: , ,

Comments are closed.

Twitter

TwitPic

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
Korbsak.com
กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ค้นหา