ต้องเดี๋ยวนี้

ต้องเดี๋ยวนี้

14 สิงหาคม 2550

ผมว่าเราช้าต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เราเสียเวลามามากแล้วครับ เราคงต้องเลิกบ่นว่าเราเกลียดทหารที่ปฎิวัติ ต้องเลิกพูดว่ารับรัฐธรรมนูญไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญร่างจากมือของคนที่ทหาร แต่งตั้ง เหตุการณ์
ปฎิวัติผ่านมาเกือบปีแล้ว ลืมมันเสีย เดินหน้าต่อกันเถอะครับ

ผมเกลียดการปฎิวัติมากที่สุด ผมเสียดายที่เราไม่มีความอดทนพอที่จะรอให้เหตุการณ์สุกงอมและถ้าจะมีการ เปลี่ยนแปลงก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามระบบ

ถ้าวันนั้นไม่มีการปฏิวัติ แต่เดินหน้ามีการเลือกตั้ง ให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่ให้มีการโกง ใครได้เสียงข้างมากก็ตั้งรัฐบาลไป ใครได้เสียงข้างน้อยก็ทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ รัฐบาลเป็นใครก็ช่าง จะยุบสภา จะเลือกตั้งอีกกี่ครั้งกี่หนก็ต้องอดทน ถ้ามีความอดทนกันสักนิด ท้ายที่สุดเราจะไปรอด เพราะประชาชนไม่โง่ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ฝีมือ ที่คุยนักคุยหนาว่าทำงานเก่ง ผลงานจะออกมาชัดว่าเก่งจริงหรือไม่

แต่เมื่อมันผ่านวันนั้นไปแล้ว จะมัวบ่น มัวต่อว่า มัวเดินขบวน ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกวิธีอย่างแน่นอน เดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งดีกว่า มีประชาธิปไตย มีรัฐบาลทำงานเพื่อประชาชนกันได้แล้ว เพราะโลกไม่ได้หยุดรอเรา

ขณะที่เรากำลังถกเถียงว่าจะปกครองประเทศ หรือจัดการกับบ้านกับเมืองกันอย่างไร เหลียวดูคนอื่นกันสักนิดจะดีไหม

คลื่นลูกใหม่ของเอเซีย จีนและอินเดีย กำลังเดินหน้าเต็มสูบ

ใครก็รู้ว่าคนจีนเป็นคนขยัน ค่าแรงงานก็ถูก แถมมีผู้ปกครองประเทศที่ชาญฉลาด เล่ากันว่าโชเฟอร์ของผู้นำจีนขับเก่งคันงามมาถึงทางแยก เลี้ยวซ้ายไประบบเผด็จการคอมมูนิสต์ เลี้ยวขวาไประบบทุนนิยม โชเฟอร์หันถามท่านผู้นำว่าจะเลี้ยวไปทางไหน ท่านผู้นำบอกว่า ไม่มีปัญหา ถึงทางแยกแล้วส่งสัญญาณว่าจะเลี้ยวซ้าย แต่เลี้ยวขวาแทน

รัฐบาลจีนเปิดใจกว้างสำหรับผู้มาลงทุนในจีน เคยมีกฎเกณฑ์ที่ปิดกั้นในอดีต จีนก็ยกเลิก จัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ วันนี้ตัวเลขการลงทุนต่างชาติสูงถึง $69 พันล้าน ลงทุนผลิตสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ของเล่นเด็ก รองเท้า ชิ้นส่วนรถยนต์ และคอมพิวเตอร์ส่งขายทั่วโลก มีโรงงานมาก คนมีงานทำ คนมีรายได้เพื่อจับจ่ายใช้สอย ชีวิตความเป็นอยู่ของคนจีนส่วนหนึ่งดีขึ้นแบบไม่เคยคาดคิดมาก่อน

รัฐบาลจีนสร้างความพร้อมโดยการลงทุนเพิ่มในด้านการขนส่ง ถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ สนามบิน เพื่อรองรับสินค้าเข้าและออก การลงทุนจากรัฐรวมกับการลงทุนจากต่างชาติ ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ต่างชาติลงทุนในจีนเพราะค่าแรงถูก สินค้าจากจีนส่งขายในสหรัฐและยุโรปราคาต่ำ กดไม่ให้ค่าเงินเฟ้อขยับตัว เงินเฟ้อไม่มี ดอกเบี้ยก็ไม่ขึ้น การขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกอยู่ในช่วงขาขึ้นติดต่อกันได้อย่างเป็นเวลานาน

อินเดียไม่น้อยหน้า กวดไล่จีนมาติดๆ อินเดียได้เปรียบจีนที่คนอินเดียพูดภาษาอังกฤษมากกว่า 100 ล้านคน มากกว่าคนในประเทศอังกฤษเสียอีก ผมจำได้ว่าสมัยผมเป็นเด็ก ( นานแล้วครับ! ) เกือบถูกส่งไปเรียนที่อินเดีย เพราะที่นั่นภาษาดี และค่าเรียนไม่แพง

อินเดียจึงได้ธุรกิจที่ต่างจากจีน เรียกว่าธุรกิจ off shore เป็นการขายสมอง ขายปัญญา เพราะคนอินเดียมีการศึกษาดี จบปริญญาตรี วิทยาศาสตร์ วิศวะ คณิตศาสตร์ ประเทศตะวันตกจ้างอินเดียทำธุรกิจ off shore เน้นไปที่งาน call center งาน back office งานค้นคว้าทางด้านวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ งานwhite collar เหล่านี้ย้ายมาอยู่ในอินเดียเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากระบบอินเตอร์เน็ต ระบบโทรศัพท์ทางไกลที่มีค่าใช้จ่ายน้อย และแน่นอน ค่าแรงงานของคนอินเดียที่จบปริญญาถูกกว่าคนของซีกโลกตะวันตกเป็นอย่างมาก

คนอินเดียทำกันถึงขนาดฝึกหัดพูดอังกฤษให้มีสำเนียงเหมือนคนอเมริกันบ้าง สำเนียงเหมือนคนอังกฤษบ้าง ลูกค้าของธุรกิจทั้งหลายในสหรัฐหรือยุโรป ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าคนที่รับโทรศัพท์นั้นนั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของโลก เป็นคนอินเดียที่ทำตัวเป็นฝรั่ง ลงทุนเปลี่ยนชื่อเสียโก้ว่า เจนนี่ (ชื่อจริงคือจันทรา) ช่วยตอบข้อสงสัย แก้ปัญหาให้ ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบินหรือจองห้องโรงแรม หรือมีปัญหากี่ยวกับโน๊ตบุ๊ค

วันนี้คนอินเดีย 1.3 ล้านคน ทำงานด้านบริการทางอินเตอร์เน็ทและ call center ให้บริษัทต่างชาติครับ ไม่ต้องบอกก็พอนึกภาพออกว่า ประชากรกว่าล้านคน มีงานทำ มีรายได้ดี เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจส่วนรวมของอินเดียมากเพียงใด

แต่อินเดียก็มีปัญหาครับ คนอินเดียส่วนใหญ่ยากจน ต้องการงานที่ใช้แรงงาน แต่ไม่มีโรงงานเกิดขึ้น เพราะสาธารณูปโภคของอินเดียใช้ไม่ได้ ท่าเรือแย่ สนามบินโบราณ สินค้าที่ผลิตในอินเดียส่งออกด้วยความทุลักทุเล นักลงทุนต่างชาติไม่กล้าลงทุนสร้างโรงงานผลิตสินค้า เพราะการขนส่งมีปัญหา รัฐบาลอินเดียยังต้องลงทุนอีกมาก ส่วนนี้อินเดียยังตามจีนไม่ทัน

กลับมาดูเรื่องของเราบ้าง

ผมบอกตั้งแต่ต้นว่าโลกไม่ได้หยุดรอเรา นอกจากไม่ได้หยุดรอแล้ว เขายังทำงานกัน 24 ชั่วโมงอีกต่างหาก โลกในอนาคตเป็นโลกแบน ไม่มีพรมแดน ไม่มีเวลาหลับนอน นักธุรกิจซีกโลกตะวันตก วางแผน สั่งงาน ส่งข้อมูล ตกค่ำเข้านอนและเป็นเวลาเช้าของอินเดีย ของจีน ที่เริ่มทำงานสนองตอบนายจ้างที่กำลังหลับอยู่ ธุรกิจเขาทำกันอย่างนี้ครับ

ถนนทุกเส้นมุ่งไปที่ประสิทธิภาพและราคา ที่ไหนราคาถูก ธุรกิจจะวิ่งไปที่นั่น คำว่าราคาถูกไม่ใช่เฉพาะค่าแรงงาน ราคารวมไปถึงค่าขนส่ง ค่าภาษี ค่าเสียเวลาที่ท่าเรือ สนามบิน เวลาสินค้าเข้าและสินค้าออก รวมไปถึงค่าน้ำร้อนน้ำชา ก็เป็นต้นทุนทั้งสิ้น

โลกในอนาคตจึงเป็นโลกที่ท้าทาย

ประเทศไทย คนไทย จะยืนอยู่ตรงไหน

ค่าแรงของเราไม่ถูกแล้ว ไม่มีทางสู้จีนหรืออินเดีย ( ผมชอบ เพราะผมไม่ต้องการเห็นคำว่าคนไทยค่าแรงถูก )

การศึกษาเราไม่มีการพัฒนาที่ดีพอ ภาษาอังกฤษที่เป็นเรื่องใหญ่ เราก็ยังล้าหลังทุกประเทศที่เป็นคู่แข่งกับเราในย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็น มาเลย์ สิงคโปร์ หรือแม้แต่ฟิลิปปินส์

ถ้าเราจะค้าขายกับต่างชาติ ให้มีการลงทุนใหม่ๆ เราต้องกล้าตัดสินใจ ว่าธุรกิจใดอนุญาตต่างชาติ ธุรกิจใดไม่อนุญาต 51% – 49% เลิกเสียที หัดคิดนอกกรอบเสียบ้าง โลกเขาไปกันถึงไหนแล้ว ยังมัวนั่งแก้กฎหมายกันอยู่ได้

ท่าเรือ สนามบิน จุดเข้าออกของสินค้า อย่าให้สินค้าต้องแช่อยู่ในโกดังเกินกว่า 48ชั่วโมง ต้องรู้และเข้าใจว่า โลกปัจจุบันจะไม่มีคำว่าโกดังเก็บสินค้าอีกต่อไป แต่จะเป็นเพียงโกดังเพื่อพักสินค้าเท่านั้น ทุกอย่างเข้าสู่ขบวนการ “just in time” มาทันพอดีไงครับ ไม่มีสต๊อก เพื่อลดค่าใช้จ่าย ระบบอินเตอร์เน็ท ระบบ bar code ที่ปรับปรุงใหม่ บอกข้อมูลให้ทุกคนทราบว่า สินค้าชิ้นนี้ขายได้แล้ว ต้องทำชิ้นใหม่มาแทนที่ทันที ทุกคนที่ผมพูดหมายถึงทุกคนที่อยู่ในขบวนการผลิตกันทีเดียว การบริหารธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งวัดกันที่ ไม่มีคำว่าสินค้าผลิตเกินความต้องการ และไม่มีคำว่า สินค้าผลิตไม่ทันความต้องการ ทุกอย่างอยู่ที่ พอดี พอดีครับ

เรามีจุดแข็งที่คนอื่นเขาไม่มี ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว งานด้านการบริการ อาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์ เราต้องรู้ว่าอะไรคือจุดขาย จุดเด่น ไม่ใช่ไปแข่งกับเขาเสียทุกเรื่อง เลิกสูญเสียทรัพยากรที่มีอยู่เพียงจำกัดกับเรื่องที่ไม่เข้าท่าได้แล้ว ( กรุงเทพ เมืองแฟชั่น ! )

ดูแล้วเราจะเป็นส่วนหนึ่งของเขาได้หรือ หรือว่าเราตกรถไฟขบวนนี้เสียแล้ว ตอบยากเพราะเรากำลังอยู่ในฐานะที่ลำบาก เราต้องการรัฐบาลที่กล้าตัดสินใจและเข้าใจปัญหา แต่วันนี้เรายังไม่มีแม้แค่รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ที่สำคัญกว่า เราต้องการประชาชน ท่านผู้นำทางความคิด ท่านผู้ที่มีการศึกษาทั้งหลายที่ตื่นตัว และเข้าใจในปัญหาและช่วยกันคิด ช่วยกันทำ มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

จะทำอะไรก็ต้อง “เดี๋ยวนี้ ” ครับ

แบ่งปันเรื่องราว:
  • Print
  • del.icio.us
  • Facebook
  • email
  • PDF
  • Twitter

Tags:

Comments are closed.

Twitter

TwitPic

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
Korbsak.com
กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ค้นหา